การแบ่งแพ็กเกจบริการออกแบบเว็บไซต์ตามขนาดและความต้องการของธุรกิจ

การแบ่งแพ็กเกจบริการออกแบบเว็บไซต์มักจะแบ่งตามขนาดและความต้องการของธุรกิจเป็นหลัก โดยทั่วไปจะมีระดับแพ็กเกจหลัก ๆ ดังนี้

• แพ็กเกจสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือเริ่มต้น
  เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์หรือร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก มีฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น รองรับภาษาเดียว, ธีมเว็บไซต์จำกัด, ระบบจัดการง่าย, และบริการสนับสนุนผ่านอีเมลหรือแชทพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจฟรีหรือ Standard Package ที่รองรับ 1-2 ภาษา และธีมเว็บไซต์จำนวนจำกัด

• แพ็กเกจสำหรับธุรกิจขนาดกลาง
  เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนมากขึ้น เช่น รองรับหลายภาษา, ระบบชำระเงินออนไลน์หลายช่องทาง, ธีมเว็บไซต์ให้เลือกมากขึ้น, ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ และบริการสนับสนุนที่ครอบคลุมกว่า เช่น Live Chat, Hotline รวมถึงระบบจัดการหลังบ้านที่ช่วยให้ธุรกิจควบคุมเนื้อหาได้สะดวก

• แพ็กเกจสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่หรือองค์กร
  เน้นเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อน รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก มีฟีเจอร์ครบถ้วนทุกอย่าง เช่น รองรับทุกภาษา, ธีมและฟังก์ชันแบบกำหนดเอง, ระบบชำระเงินครบวงจร, การแจ้งเตือนยอดขายผ่านช่องทางต่าง ๆ, ระบบรักษาความปลอดภัยสูง และบริการดูแลเว็บไซต์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการออกแบบ UX/UI ที่ตอบโจทย์ธุรกิจเฉพาะ

นอกจากนี้ บางผู้ให้บริการยังมีแพ็กเกจที่เน้นการออกแบบเว็บไซต์พร้อมทำการตลาดออนไลน์และ SEO เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า โดยจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลตั้งแต่การออกแบบจนถึงการทำตลาดออนไลน์ควบคู่กันไป

สรุปคือ การแบ่งแพ็กเกจบริการออกแบบเว็บไซต์จะพิจารณาจาก

• ขนาดธุรกิจ (เล็ก กลาง ใหญ่)
• จำนวนภาษาและสกุลเงินที่รองรับ
• จำนวนและความหลากหลายของธีมเว็บไซต์
• ฟีเจอร์เสริม เช่น ระบบชำระเงิน, การแจ้งเตือน, ระบบจัดการหลังบ้าน
• การสนับสนุนลูกค้า (อีเมล, แชท, โทรศัพท์)
• บริการเสริม เช่น การตลาดออนไลน์, SEO, การดูแลเว็บไซต์

ซึ่งธุรกิจสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณได้ตามระดับเหล่านี้