แนวโน้มและอนาคตของ Generative AI ในเอเชียและประเทศไทย

แนวโน้มและอนาคตของ Generative AI ในเอเชียและประเทศไทย คือจะมีการเติบโตและการนำไปใช้ที่รวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ Generative AI จะไม่เพียงแค่สร้างเนื้อหา แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและช่วยพัฒนาทักษะการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย มีการนำ Generative AI มาใช้ในองค์กรและในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย ตัวอย่างเช่น 62% ของแรงงานไทยใช้ Generative AI ในการทำงานและส่วนตัว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การตลาด ไอที และครีเอทีฟ

นอกจากนี้ การเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้าน AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการลงทะเบียนเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับ Generative AI เพิ่มขึ้นถึง 232% ซึ่งสะท้อนถึงความตื่นตัวและความพร้อมของแรงงานไทยในการปรับตัวเข้าสู่ยุค AI

ในระดับองค์กรและธุรกิจ Generative AI ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเริ่มนำ AI มาใช้จริงและมีแนวโน้มที่จะขยายการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2025

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังส่งผลให้เกิดความต้องการทักษะใหม่ ๆ ในตลาดแรงงาน เช่น ทักษะด้านเทคนิค ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ และทักษะด้านบุคคล เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปภาพรวมสำคัญ

• Generative AI จะมีความสามารถล้ำหน้าขึ้นในปี 2025 ทั้งการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
• ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางนวัตกรรม AI ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการใช้งานและพัฒนาทักษะ AI อย่างรวดเร็ว
• การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ AI ในไทยเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI
• องค์กรในเอเชียแปซิฟิกเริ่มนำ AI มาใช้จริงและมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต
• ตลาดแรงงานและองค์กรต้องปรับตัวด้วยการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ AI

ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า Generative AI จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและตลาดแรงงานในเอเชียและประเทศไทยในอนาคตอันใกล้