TH Ranking - ข่าว - 2025-04-26

กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทท่องเที่ยวในประเทศไทย

ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนหาข้อมูลการท่องเที่ยวผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับแรก บริษัทท่องเที่ยวในประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมี “กลยุทธ์การตลาดออนไลน์” ที่แข็งแกร่งและทันสมัย หากต้องการโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง กลยุทธ์ที่ดีจะช่วยเพิ่มยอดขาย สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะเจาะลึกถึงกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทท่องเที่ยวในไทย พร้อมคำแนะนำที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

1. เข้าใจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวออนไลน์ในประเทศไทย

ก่อนเริ่มทำการตลาดใดๆ การเข้าใจ “ลูกค้าเป้าหมาย” คือหัวใจหลัก นักท่องเที่ยวในปัจจุบันมักเริ่มวางแผนการเดินทางจากการค้นหาข้อมูลบน Google หรือดูรีวิวบน YouTube และ Facebook รวมถึงการเปรียบเทียบราคาบนแพลตฟอร์ม OTA (Online Travel Agency) เช่น Agoda, Booking.com หรือ Klook

ข้อมูลที่ควรรู้:

  • นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว
  • นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมค้นหาคำว่า "Thailand travel", "Bangkok tour", "Chiang Mai package"
  • นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ (Gen Z และ Millennials) ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” และ “รีวิวจากผู้ใช้งานจริง”

2. ใช้ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google

Search Engine Optimization (SEO) คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าผลลัพธ์แรกๆ ของ Google โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว

เทคนิค SEO สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว:

  • ใช้คำค้นหาหลัก เช่น “แพ็คเกจทัวร์เชียงใหม่”, “เที่ยวทะเลใต้”, “ทัวร์กระบี่ราคาถูก”
  • เขียนบทความหรือบล็อกที่ให้คุณค่า เช่น “10 ที่เที่ยวภูเก็ตที่ไม่ควรพลาด” หรือ “แนะนำที่พักสวยๆ ในเชียงราย”
  • สร้างหน้าเว็บที่โหลดเร็ว รองรับมือถือ และมีแผนที่ Google Maps
  • ใช้ Structured Data Markup เพื่อให้ Google แสดงรีวิวและราคาทัวร์ได้ชัดเจน

ประโยชน์: ลงทุนครั้งเดียว แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ทำให้เว็บไซต์มีทราฟฟิกจากนักท่องเที่ยวตลอดเวลา

3. ลงโฆษณาผ่าน Google Ads และ Meta Ads อย่างมีกลยุทธ์

ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การลงโฆษณาผ่าน Google Ads (สำหรับ Search, Display และ YouTube) และ Meta Ads (Facebook, Instagram) คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

งบประมาณแนะนำ: เริ่มต้นเพียง 5,000 – 10,000 บาท/เดือน ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้

เทคนิคสำคัญ:

  • สร้างกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น คนที่เพิ่งค้นหาคำว่า “ที่เที่ยวพัทยา 2025”
  • ทำโฆษณา Remarketing เพื่อดึงดูดผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์แต่ยังไม่ซื้อ
  • ใช้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูง เช่น วิดีโอรีวิวแพ็คเกจทัวร์หรือภาพทะเลใสๆ
  • ทดสอบ A/B Testing เพื่อหาโฆษณาที่มีอัตราคลิก (CTR) สูงที่สุด

4. ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมืออาชีพ

Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube เป็นช่องทางสำคัญสำหรับบริษัทท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะถ้าเป้าหมายคือคนไทยหรือนักท่องเที่ยวเอเชีย

เทคนิคการใช้งาน:

  • โพสต์เนื้อหาที่ให้แรงบันดาลใจ เช่น รูปวิวสวยๆ พร้อมคำคม
  • ทำคลิปวิดีโอสั้นบน TikTok ที่โชว์ประสบการณ์เที่ยวจริง เช่น “1 วันในกระบี่กับแพ็คเกจ 1,500 บาท”
  • ตอบคอมเมนต์และข้อความอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่ม Engagement
  • ใช้ Influencer ท่องเที่ยวมารีวิวแพ็คเกจหรือบริการ

5. พัฒนาเว็บไซต์ให้พร้อมใช้งานและเชื่อถือได้

เว็บไซต์คือหน้าร้านของคุณในโลกออนไลน์ หากผู้ใช้เข้าเว็บไซต์แล้วโหลดช้า หรือหาข้อมูลยาก โอกาสขายก็จะหายไป

สิ่งที่เว็บไซต์ควรมี:

  • รายละเอียดแพ็คเกจพร้อมราคา (ใช้ THB เช่น 3,990 บาท/ทริป)
  • รีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ
  • ปุ่มจองออนไลน์ที่ใช้งานง่าย (พร้อมระบบชำระเงิน)
  • ระบบแชทสด (Live Chat) หรือการติดต่อผ่าน LINE OA

6. สร้างระบบอีเมลมาร์เก็ตติ้งที่มีประสิทธิภาพ

แม้ว่าอีเมลดูเหมือนจะล้าสมัย แต่ถ้าใช้ให้ถูกวิธี จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า และกระตุ้นให้กลับมาซื้อซ้ำได้

กลยุทธ์ที่แนะนำ:

  • ส่งอีเมลแนะนำโปรโมชั่นประจำเดือน
  • สร้างอีเมลอัตโนมัติ (Automation) เช่น ยืนยันการจอง, แจ้งเตือนก่อนเดินทาง
  • มอบส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าที่สมัครอีเมล
  • ใช้ระบบเช่น Mailchimp หรือ Brevo ที่รองรับภาษาไทย

7. ใช้รีวิวและความน่าเชื่อถือเพื่อสร้าง Conversion

ในธุรกิจท่องเที่ยว “ความไว้ใจ” คือทุกสิ่ง นักท่องเที่ยวมักเลือกบริษัทที่มีรีวิวดีและดูน่าเชื่อถือ

วิธีสร้างความน่าเชื่อถือ:

  • ขอสรีวิวจากลูกค้าทุกครั้งหลังเดินทาง
  • นำรีวิวดีๆ มาติดหน้าเว็บไซต์ หรือโพสต์ลงโซเชียล
  • มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวติดไว้ชัดเจน
  • สร้างเพจใน Google Business พร้อมรีวิว 5 ดาว

8. ใช้ระบบจองออนไลน์ที่ปลอดภัยและทันสมัย

การจองออนไลน์ไม่ควรซับซ้อน ลูกค้าควรสามารถเลือกแพ็คเกจ กรอกข้อมูล และชำระเงินได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน

สิ่งที่ควรมี:

  • ระบบเลือกวันเดินทาง / จำนวนคน
  • การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต, QR Code, หรือโอนเงิน
  • ยืนยันอัตโนมัติผ่านอีเมล
  • ระบบหลังบ้านสำหรับพนักงานดูรายละเอียดการจอง

9. ทำ Local SEO สำหรับเจาะตลาดต่างประเทศ

หากคุณเน้นตลาดต่างชาติ เช่น จีน, ยุโรป, หรือเกาหลี ควรมีเว็บไซต์เวอร์ชันภาษาอังกฤษ และทำ Local SEO ให้ตรงกับประเทศเป้าหมาย

ตัวอย่างคำค้นหา:

  • “Thailand island hopping tour”
  • “Best Chiang Mai elephant sanctuary”
  • “Krabi honeymoon package in THB”

10. สร้างความต่างด้วย Content Marketing

Content คือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างแบรนด์และให้ความรู้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบล็อก บทความ คลิป YouTube หรือ eBook

หัวข้อที่น่าสนใจ:

  • “7 เหตุผลที่ควรเที่ยวไทยปี 2025”
  • “รวม 5 ทริปทัวร์ในงบไม่เกิน 5,000 บาท”
  • “Checklist เตรียมตัวก่อนเที่ยวทะเลใต้”
  • “Vlog เที่ยวอยุธยา 1 วันด้วยงบประหยัด”

11. สร้าง Loyalty Program หรือระบบสมาชิก

เมื่อได้ลูกค้าแล้ว การรักษาลูกค้าเก่าจะประหยัดกว่าหาลูกค้าใหม่ถึง 5 เท่า

ไอเดียระบบสมาชิก:

  • สะสมแต้มทุกการจอง
  • ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า
  • สิทธิพิเศษ เช่น Early Access แพ็คเกจใหม่

12. วิเคราะห์ผลการตลาดและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

อย่าทำการตลาดโดยไม่มีข้อมูลรองรับ ใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics, Meta Ads Manager, และ Hotjar เพื่อดูพฤติกรรมผู้ใช้งาน

ตัวชี้วัดสำคัญ:

  • Conversion Rate (อัตราการจองต่อจำนวนคนเข้าเว็บไซต์)
  • CTR ของโฆษณา
  • Bounce Rate
  • รายได้ต่อแพ็คเกจ (Average Order Value)

บทสรุป

การทำการตลาดออนไลน์สำหรับบริษัทท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ใช่แค่ลงโฆษณาอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการวางแผนรอบด้าน ทั้ง SEO, โซเชียลมีเดีย, การสร้างความน่าเชื่อถือ และการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง หากคุณนำกลยุทธ์ที่แนะนำมาปรับใช้ จะช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล

เริ่มต้นวันนี้ แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า


เราเป็นเอเจนซี่การตลาดที่ดีที่สุดในประเทศไทยบนอินเทอร์เน็ต
หากคุณต้องการความช่วยเหลือ กรุณาติดต่อเราผ่านแบบฟอร์มติดต่อ

ปรึกษาฟรี

TH Ranking ให้บริการทราฟฟิกเว็บไซต์คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย เรามีบริการทราฟฟิกหลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ทราฟฟิกเว็บไซต์, ทราฟฟิกจากเดสก์ท็อป, ทราฟฟิกจากมือถือ, ทราฟฟิกจาก Google, ทราฟฟิกจากการค้นหา, ทราฟฟิกจาก eCommerce, ทราฟฟิกจาก YouTube และทราฟฟิกจาก TikTok เว็บไซต์ของเรามีอัตราความพึงพอใจของลูกค้า 100% คุณจึงสามารถสั่งซื้อทราฟฟิก SEO จำนวนมากทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เพียง 398 บาทต่อเดือน คุณสามารถเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO และเพิ่มยอดขายได้ทันที!

เลือกแพ็กเกจทราฟฟิกไม่ถูกใช่ไหม? ติดต่อเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ

ปรึกษาฟรี

การปรึกษาฟรี ฝ่ายบริการลูกค้า

ต้องการความช่วยเหลือในการเลือกแผน? กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านขวา และเราจะติดต่อกลับหาคุณ!

Fill the
form