พฤติกรรมนักท่องเที่ยวออนไลน์ในประเทศไทย

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวออนไลน์ในประเทศไทยมีลักษณะสำคัญดังนี้:

• การจองท่องเที่ยวออนไลน์เติบโตสูง โดยเฉพาะการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และที่พักแบบเช่าเหมารวม รวมถึงแพ็กเกจท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 แสดงถึงความนิยมในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อวางแผนและจองทริป
• นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้ สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลัก ในการค้นหาข้อมูลและจองทริป โดย 75% นิยมใช้มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์
• โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลสูง ต่อการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทาง โดยกว่า 52% ได้รับอิทธิพลจากโพสต์ของอินฟลูเอนเซอร์บนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, YouTube และ Instagram ซึ่งข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์ถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือในระดับสูง
• นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะ วางแผนทริปด้วยตนเองมากขึ้น (ประมาณ 40%) แทนการใช้บริการตัวแทนท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการควบคุมและความสะดวกในการเลือกบริการที่ตรงกับความสนใจและงบประมาณ
• การค้นหาข้อมูลผ่าน เสิร์ชเอนจินและการสแกน QR Code เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อย โดย 89% ใช้เสิร์ชเอนจินและ 61.5% สแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูล
• นักท่องเที่ยวออนไลน์มักใช้ บล็อกและเว็บไซต์รีวิว เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจ (66%) รองลงมาคือโซเชียลมีเดีย (52%) และคำแนะนำจากคนรู้จัก (37%)
• ประเภทการท่องเที่ยวที่นิยม ได้แก่ การพักผ่อนแบบผ่อนคลาย การผจญภัย และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนความต้องการประสบการณ์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และค่านิยมส่วนบุคคล

โดยรวมแล้ว พฤติกรรมนักท่องเที่ยวออนไลน์สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ ไปจนถึงการจองทริปผ่านมือถือและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็ว