สำหรับการเตรียมตัวรับมือกับ Google Core Update 2025 นักการตลาดควรเน้นกลยุทธ์และเทคนิคดังนี้
-
เน้นคุณภาพเนื้อหา (Content Quality): สร้างเนื้อหาที่มีความเชี่ยวชาญ (Expertise) น่าเชื่อถือ (Trustworthiness) และครอบคลุมข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการอย่างแท้จริง หลีกเลี่ยงเนื้อหาคุณภาพต่ำหรือซ้ำซ้อน เพราะ Google จะลดอันดับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำลงอย่างชัดเจน
-
ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (UX/UI): ออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย โหลดเร็ว ตอบสนองดีบนมือถือ และมีการนำทางที่ชัดเจน Google ให้ความสำคัญกับสัญญาณประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้นในอัลกอริทึมใหม่
-
เสริมความแข็งแกร่งด้าน Technical SEO: ตรวจสอบและปรับปรุง Core Web Vitals เช่น LCP (Largest Contentful Paint), FID (First Input Delay), CLS (Cumulative Layout Shift) ให้ผ่านเกณฑ์ Google รวมถึงความเร็วเว็บไซต์ การเข้าถึง และความปลอดภัยของเว็บไซต์ (HTTPS)
-
ใช้ AI และข้อมูลเชิงลึกในการวางแผนการตลาด: นำ AI มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและวัดผลแคมเปญ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
-
ติดตามและวิเคราะห์ผลกระทบหลังอัปเดต: ตรวจสอบอันดับเว็บไซต์และพฤติกรรมผู้ใช้หลัง Google Core Update เพื่อปรับปรุงและแก้ไขจุดอ่อนอย่างรวดเร็ว พร้อมเตรียมพร้อมรับมือการอัปเดตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
สรุปคือ นักการตลาดควรลงทุนในเนื้อหาคุณภาพสูง ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และเทคนิค SEO อย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวิเคราะห์และวางแผน เพื่อให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดีที่สุดตามแนวทางของ Google Core Update 2025
TH Ranking ให้บริการทราฟฟิกเว็บไซต์คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย เรามีบริการทราฟฟิกหลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ทราฟฟิกเว็บไซต์, ทราฟฟิกจากเดสก์ท็อป, ทราฟฟิกจากมือถือ, ทราฟฟิกจาก Google, ทราฟฟิกจากการค้นหา, ทราฟฟิกจาก eCommerce, ทราฟฟิกจาก YouTube และทราฟฟิกจาก TikTok เว็บไซต์ของเรามีอัตราความพึงพอใจของลูกค้า 100% คุณจึงสามารถสั่งซื้อทราฟฟิก SEO จำนวนมากทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เพียง 398 บาทต่อเดือน คุณสามารถเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO และเพิ่มยอดขายได้ทันที!
เลือกแพ็กเกจทราฟฟิกไม่ถูกใช่ไหม? ติดต่อเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ
ปรึกษาฟรี