การบำรุงรักษาและการจัดการระบบ RAID ภายในองค์กร

การบำรุงรักษาและการจัดการระบบ RAID ภายในองค์กร มีความสำคัญเพื่อให้ระบบจัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพและความทนทานสูงสุด โดยมีแนวทางหลักดังนี้

• เลือกประเภท RAID ให้เหมาะสมกับงาน เช่น

  • RAID 1 เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความทนทานสูง โดยสำรองข้อมูลแบบ Mirror ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ 2 ลูกขึ้นไป
  • RAID 10 เหมาะกับระบบที่ต้องการทั้งความเร็วและความทนทาน ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ 4 ลูกขึ้นไป
  • RAID 5 เหมาะกับระบบที่ต้องการพื้นที่ใหญ่และความทนทานระดับปานกลาง แต่ไม่เหมาะกับงานที่ต้องทำงาน 24×7 หรือข้อมูลสำคัญมาก

• การตรวจสอบและบำรุงรักษา RAID

  • ตรวจสอบสถานะของฮาร์ดไดรฟ์และ RAID Controller อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • หากฮาร์ดไดรฟ์ลูกใดเสีย ควรรีบเปลี่ยนและทำการ rebuild RAID ทันทีเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
  • ใช้ระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติของ RAID เพื่อให้สามารถแก้ไขได้รวดเร็ว

• การจัดการ RAID Array

  • การสร้างหรือลบ RAID Array ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะข้อมูลทั้งหมดในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจะถูกลบเมื่อทำการลบ RAID Array
  • การตั้งค่า RAID สามารถทำได้ผ่าน BIOS หรือซอฟต์แวร์จัดการ RAID เช่น Intel Rapid Storage Technology โดยต้องเข้าใจขั้นตอนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

• การใช้ RAID Controller ที่มีคุณภาพ

  • การใช้ RAID Controller ที่มีความเสถียรและรองรับการทำงานแบบ Active/Standby หรือ Active/Active จะช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพของระบบ

• การสำรองข้อมูล (Backup)

  • RAID ไม่ใช่ระบบสำรองข้อมูล จึงควรมีการสำรองข้อมูลแยกต่างหากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากความผิดพลาดของ RAID หรือภัยพิบัติอื่นๆ

การบำรุงรักษาและจัดการระบบ RAID อย่างถูกต้องจะช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและระบบมีความพร้อมใช้งานสูงตลอดเวลา