TH Ranking - คลังความรู้ออนไลน์ - 2025-12-13

การเลือกคำค้นหาแบบ Long-tail Keywords เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย

Long-tail Keywords คืออะไร

Long-tail Keywords คือคำค้นหาที่มีความยาวมากกว่า 2-3 คำขึ้นไป เป็นกลุ่มคำที่เฉพาะเจาะจงและมีความหมายชัดเจนมากกว่าคำค้นหาแบบสั้น ตัวอย่างเช่น แทนที่จะค้นหา "รองเท้า" ผู้ใช้อาจค้นหา "วิธีซักรองเท้า" หรือ "รองเท้าผ้าใบแบบไหนดี" แม้ว่า Long-tail Keywords จะมี Search Volume ต่ำกว่า แต่มีข้อดีที่สำคัญในการเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ

ข้อดีของการใช้ Long-tail Keywords ในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย

เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงมากขึ้น

Long-tail Keywords มีความเฉพาะเจาะจงสูง ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เช่น การค้นหา "ร้านกาแฟ เขาใหญ่" หรือ "ร้านอาหารเกาหลี บางนา" จะเจาะจงกว่าการค้นหาแค่ "กาแฟ" หรือ "อาหารเกาหลี" ผู้ค้นหาที่ใช้ Long-tail Keywords มักมีความตั้งใจเฉพาะเจาะจงและพร้อมที่จะแปลงเป็นลูกค้า

โอกาสติดอันดับสูงกว่า

เนื่องจาก Long-tail Keywords มี Search Volume ต่ำ จึงมีการแข่งขันค่อนข้างต่ำ บทความที่ใช้ Long-tail Keyword เป็น Focus Keyword จึงมีโอกาสที่จะติดหน้าแรก Google Search เร็วกว่าบทความที่อาศัยเพียง Keyword สั้น ๆ

สร้างเนื้อหาที่ยั่งยืน

Long-tail Keywords ช่วยให้การเขียนบทความ SEO ง่ายขึ้น เพราะมีความเฉพาะเจาะจงและสามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและยั่งยืนได้มากกว่า

วิธีการเลือก Long-tail Keywords ที่มีประสิทธิภาพ

  1. เข้าใจกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์

ก่อนหาคีย์เวิร์ด ต้องรู้ว่าลูกค้าคือใคร และค้นหาข้อมูลแบบไหน เช่น ถ้าขายคอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ กลุ่มเป้าหมายอาจเป็นนักเรียนหรือคนทำงาน คุณอาจได้คีย์เวิร์ดอย่าง "เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน" หรือ "คอร์สสนทนาภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงาน"

  1. ใช้เครื่องมือค้นหา Keyword

เครื่องมือเช่น Google Keyword Planner, Ubersuggest, Ahrefs, AnswerThePublic หรือ SEMrush สามารถช่วยให้เห็นแนวโน้มการค้นหาและได้ไอเดียคำที่คนกำลังใช้จริง เครื่องมือเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึก เช่น Search Volume จำนวนคลิก CPC และ Keyword Difficulty (KD)

  1. มองหา Keyword ที่มี Volume ปานกลาง แต่แข่งขันต่ำ

ไม่จำเป็นต้องเลือกคำที่มีจำนวนค้นหามากที่สุด เพียงแค่คำที่มี Search Volume ระดับกลาง ๆ แต่มีการแข่งขันที่ต่ำ ก็จะช่วยให้ติดอันดับได้เร็วกว่า

  1. สำรวจประโยคคำถามจากเว็บบอร์ด

ลองพิมพ์คำถามที่เกี่ยวกับสินค้าลงใน Google แล้วเข้าไปดูในเว็บบอร์ดว่าคนส่วนใหญ่มีข้อสงสัยหรือพูดถึงสินค้าในแง่ใด เพื่อนำประโยคคำถามเหล่านั้นมาปรับใช้เป็น Long-tail Keywords

  1. ใช้ Google Suggest

Google Suggest เป็นวิธีการค้นหา Long-tail Keywords ที่ง่ายที่สุด โดยพิมพ์สิ่งที่อยากรู้ลงใน Google แล้ว Google จะแนะนำคำที่กำลังเป็นที่นิยมในการค้นหานั้น ๆ ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

วิธีการนำ Long-tail Keywords ไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด

ใส่ Long-tail Keywords ในจุดสำคัญ

พยายามใส่ไว้ในชื่อเรื่อง (Title Tag) และสื่อถึงเนื้อหาโดยรวมของบทความได้จริง ๆ หรือนำไปสร้างเป็นหัวข้อหลัก หัวข้อย่อย (H1, H2, H3…) ควรมีการใส่ Long-tail Keyword ลงในชื่อบทความและคำอธิบาย (Meta Description) เพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ตั้งแต่ต้น

ใส่ Long-tail Keywords อย่างเป็นธรรมชาติ

ไม่ควรยัดคีย์เวิร์ดจนอ่านแล้วไม่ลื่นไหล ควรเลือกใช้จำนวนคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม เพื่อให้เนื้อหาคอนเทนต์ดูเป็นธรรมชาติ พยายามกระจายคีย์เวิร์ดและคำที่มีความหมายใกล้เคียง (LSI Keywords) ไปทั่วบทความให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ควรยัดคียเวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาโดยรวม

การเลือก Long-tail Keywords อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสในการติดอันดับ และสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าต่อผู้ใช้งาน

ภาพจากอินเทอร์เน็ต

TH Ranking ให้บริการทราฟฟิกเว็บไซต์คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย เรามีบริการทราฟฟิกหลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ทราฟฟิกเว็บไซต์, ทราฟฟิกจากเดสก์ท็อป, ทราฟฟิกจากมือถือ, ทราฟฟิกจาก Google, ทราฟฟิกจากการค้นหา, ทราฟฟิกจาก eCommerce, ทราฟฟิกจาก YouTube และทราฟฟิกจาก TikTok เว็บไซต์ของเรามีอัตราความพึงพอใจของลูกค้า 100% คุณจึงสามารถสั่งซื้อทราฟฟิก SEO จำนวนมากทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เพียง 398 บาทต่อเดือน คุณสามารถเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO และเพิ่มยอดขายได้ทันที!

เลือกแพ็กเกจทราฟฟิกไม่ถูกใช่ไหม? ติดต่อเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ

ปรึกษาฟรี

การปรึกษาฟรี ฝ่ายบริการลูกค้า

ต้องการความช่วยเหลือในการเลือกแผน? กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านขวา และเราจะติดต่อกลับหาคุณ!

Fill the
form