กลยุทธ์ธุรกิจและการตลาดที่ผู้ประกอบการไทยสามารถเรียนรู้จาก iHerb

ผู้ประกอบการไทยสามารถเรียนรู้กลยุทธ์ธุรกิจและการตลาดจาก iHerb ได้หลายประการ ดังนี้

• การควบคุมประสบการณ์ลูกค้าแบบครบวงจร: iHerb ไม่ใช่แพลตฟอร์มตลาดกลาง (ไม่ใช่ marketplace) แต่เป็นผู้ขายโดยตรงที่ควบคุมการสั่งซื้อและจัดส่งเองทั้งหมด ทำให้สามารถรวมคำสั่งซื้อเป็นพัสดุเดียว ลดความยุ่งยากและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้
• การสร้างพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำ: iHerb มีความร่วมมือระยะยาวกับแบรนด์ดัง เช่น Aveeno และ Bob’s Red Mill ซึ่งช่วยลดต้นทุนการจัดหาและเพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้า
• การเน้นสินค้าธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: iHerb เน้นสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามที่เป็นธรรมชาติ ออร์แกนิก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
• ระบบรีวิวและรางวัลที่สร้างแรงจูงใจ: iHerb มีระบบรีวิวที่ให้รางวัลแก่ลูกค้าเมื่อเขียนรีวิวหรือแนะนำลูกค้าใหม่ ทำให้เกิดการบอกต่อและสร้างความภักดีในลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• การลงทุนในระบบโลจิสติกส์และการจัดส่งที่รวดเร็วและแม่นยำ: iHerb ร่วมมือกับพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ เช่น CJ Logistics เพื่อพัฒนาระบบคลังสินค้าและจัดส่งที่ใกล้ลูกค้าในแต่ละภูมิภาค ทำให้ลดเวลาการจัดส่งและต้นทุน
• การจัดการภาษีและศุลกากรอย่างมีประสิทธิภาพ: iHerb ใช้ระบบ DDP (Delivered Duties Paid) ที่เก็บภาษีและค่าธรรมเนียมศุลกากรตั้งแต่ตอนชำระเงิน ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเพิ่มเมื่อรับสินค้า

กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้ iHerb สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ผู้ประกอบการไทยสามารถนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การตลาด และการบริการลูกค้าในธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิผล.