เทคนิคการตั้งชื่อ URL ที่สั้น กระชับ และมีคีย์เวิร์ด

เทคนิคการตั้งชื่อ URL ที่สั้น กระชับ และมีคีย์เวิร์ดควรเน้นให้ URL เข้าใจง่าย จำง่าย และสื่อความหมายเกี่ยวกับเนื้อหาในหน้านั้นโดยตรง โดยมีหลักสำคัญดังนี้

• ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและชัดเจน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหา เช่น หากเป็นบทความเกี่ยวกับ SEO ก็ควรมีคำว่า "seo" อยู่ใน URL.

• ตั้งชื่อ URL ให้สั้นและกระชับ หลีกเลี่ยงคำหรือพารามิเตอร์ที่ไม่จำเป็น เช่น ตัวเลขหรือรหัสที่ไม่มีความหมาย เพราะจะทำให้ URL ยาวและจำยาก.

• ใช้ขีดกลาง (-) แทนขีดล่าง (_) เพื่อแยกคำ เพราะ Google จะมองขีดกลางเป็นตัวแบ่งคำ แต่ขีดล่างจะถูกมองเป็นคำเดียวกัน เช่น url-structure ดีกว่า url_structure.

• ใช้ตัวอักษรเล็กทั้งหมด (lowercase) เพื่อป้องกันความสับสนระหว่างตัวใหญ่และตัวเล็กที่อาจทำให้ URL ซ้ำซ้อนหรือเข้าถึงไม่ได้.

• หลีกเลี่ยงอักขระพิเศษและภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เพราะอาจทำให้ URL ดูยุ่งยากและมีปัญหากับระบบบางอย่าง.

• จัดกลุ่ม URL ให้มีโครงสร้างชัดเจน เช่น แบ่งหมวดหมู่ด้วยโฟลเดอร์ เช่น example.com/blog/seo-tips เพื่อช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์.

• ใช้บริการย่อ URL (URL shortener) หาก URL ยาวเกินไปและต้องการความกระชับ เช่น bit.ly, goo.gl เพื่อให้ URL สั้นและง่ายต่อการแชร์.

ตัวอย่าง URL ที่ดี:
example.com/seo-tips
example.com/javascript-tricks

ตัวอย่าง URL ที่ไม่ดี:
example.com/how-to-optimize-your-website-url-for-seo-best-practices-2024 (ยาวเกินไป)
example.com/1234abcxyd-article (ไม่มีความหมาย).

การตั้งชื่อ URL ตามเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ URL สั้น กระชับ มีคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม และส่งผลดีต่อ SEO รวมถึงประสบการณ์ผู้ใช้ด้วย.