TH Ranking - ข่าว - 2025-05-04

แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทยปี 2025: เลือกใช้แพลตฟอร์มไหนดีสำหรับขายของออนไลน์?

บทนำ

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การเปิดร้านค้าออนไลน์กลายเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย การเลือกใช้แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นและขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทยปี 2025 พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และค่าใช้จ่ายของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

1. Shopify

Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับความนิยมในประเทศไทยเนื่องจากใช้งานง่าย มีเครื่องมือที่ครบถ้วนในการสร้างร้านค้าออนไลน์อย่างมืออาชีพ

จุดเด่น

  • อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านโค้ด
  • รองรับระบบการชำระเงินในประเทศไทย เช่น 2C2P, Omise
  • มีธีมและแอปพลิเคชันเสริมมากมาย

จุดด้อย

  • ค่าธรรมเนียมรายเดือนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มท้องถิ่น
  • ฟีเจอร์บางอย่างต้องจ่ายเพิ่มผ่านแอปพลิเคชันเสริม

ราคา (2025)

  • แผนพื้นฐาน: ฿850/เดือน
  • แผน Shopify: ฿2,300/เดือน
  • แผน Advanced: ฿9,200/เดือน

2. WooCommerce (สำหรับ WordPress)

WooCommerce เป็นปลั๊กอินที่ใช้งานร่วมกับ WordPress ทำให้เว็บไซต์ธรรมดาสามารถกลายเป็นร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายดาย

จุดเด่น

  • ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน (จ่ายเฉพาะโฮสติ้ง)
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมทุกองค์ประกอบของร้าน

จุดด้อย

  • ต้องดูแลระบบเอง เช่น อัปเดตและรักษาความปลอดภัย
  • ใช้งานยากสำหรับมือใหม่

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

  • ค่าโดเมน: ฿350–฿500/ปี
  • ค่าโฮสติ้ง: ฿1,200–฿3,000/ปี
  • ปลั๊กอินเสริมบางตัวมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ฿500–฿3,000 ต่อปี

3. Lazada Seller Center

Lazada เป็นแพลตฟอร์ม Marketplace ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เปิดให้ผู้ขายรายย่อยและแบรนด์ต่าง ๆ สามารถเปิดร้านค้าได้ฟรี

จุดเด่น

  • ไม่เสียค่าเช่าแพลตฟอร์ม
  • มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
  • มีระบบจัดการคำสั่งซื้อและโลจิสติกส์ครบวงจร

จุดด้อย

  • การแข่งขันสูง
  • มีค่าคอมมิชชั่นประมาณ 2%–10% ต่อยอดขาย
  • จำกัดความยืดหยุ่นในการออกแบบร้าน

4. Shopee Seller Center

Shopee เป็นอีกหนึ่ง Marketplace ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จุดเด่น

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน
  • สนับสนุนระบบการชำระเงินและขนส่งครบวงจร
  • มีแคมเปญการตลาดช่วยส่งเสริมยอดขาย

จุดด้อย

  • ค่าธรรมเนียมคอมมิชชั่น 3%–8%
  • ต้องแข่งขันเรื่องราคาอย่างหนัก
  • จำกัดการสร้างแบรนด์ส่วนตัว

5. LINE SHOPPING (MyShop)

LINE SHOPPING หรือ MyShop เป็นแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับบัญชี LINE OA ทำให้ผู้ขายสามารถขายของผ่านแชทได้สะดวก

จุดเด่น

  • ใช้งานง่ายผ่านมือถือ
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้น
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง

จุดด้อย

  • ไม่เหมาะกับร้านที่มีสินค้าจำนวนมาก
  • ยังมีข้อจำกัดด้านการจัดการสต็อกและรายงาน

ค่าใช้จ่าย

  • ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน
  • ค่าธรรมเนียมเพียงเมื่อมีการชำระผ่านระบบ LINE Pay: 2.5%

6. LnwShop

LnwShop เป็นแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ของคนไทยที่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ และเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้น

จุดเด่น

  • มีระบบหลังบ้านรองรับภาษาไทย
  • ใช้งานฟรี หรืออัปเกรดเพื่อฟีเจอร์ขั้นสูง
  • เหมาะกับร้านค้าขนาดเล็กถึงกลาง

จุดด้อย

  • ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่ทันสมัยเท่าระดับสากล
  • ต้องโปรโมทร้านเองหากต้องการลูกค้า

ราคา

  • แผนฟรี: ใช้งานพื้นฐาน
  • แผน Pro: เริ่มต้นที่ ฿299/เดือน

7. Facebook & Instagram Shops

การขายของผ่าน Facebook Shop และ Instagram Shop กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มผู้เริ่มต้น

จุดเด่น

  • ไม่ต้องสร้างเว็บไซต์
  • เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงผ่าน Social Media
  • เชื่อมโยงกับ Facebook Ads ได้

จุดด้อย

  • ไม่มีระบบหลังบ้านที่ซับซ้อน
  • ต้องจัดการคำสั่งซื้อเอง
  • ไม่มีระบบจัดส่งในตัว

8. MakeWebEasy

MakeWebEasy เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์และร้านค้าออนไลน์ของไทยที่มีชื่อเสียงในกลุ่มธุรกิจ SME

จุดเด่น

  • รองรับภาษาไทยและระบบการชำระเงินในประเทศไทย
  • มีทีมงานซัพพอร์ตภาษาไทย
  • ออกแบบเว็บไซต์ง่ายด้วยระบบ Drag & Drop

จุดด้อย

  • ต้องจ่ายรายเดือน
  • ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่ล้ำเท่า Shopify หรือ Wix

ราคา

  • แพ็กเกจเริ่มต้น: ฿390/เดือน
  • แพ็กเกจโปร: ฿1,290/เดือน

9. Magento

Magento เป็นแพลตฟอร์ม Open Source สำหรับร้านค้าระดับองค์กรที่ต้องการระบบซับซ้อนและสามารถปรับแต่งได้ทุกส่วน

จุดเด่น

  • รองรับการขยายขนาดธุรกิจ
  • ปรับแต่งระบบได้เต็มรูปแบบ
  • เหมาะสำหรับธุรกิจใหญ่หรือร้านค้า B2B

จุดด้อย

  • ใช้งานยาก ต้องมีทีมพัฒนา
  • มีค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบและเซิร์ฟเวอร์สูง

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

  • ค่าพัฒนาเริ่มต้น: ฿50,000–฿300,000+
  • ค่าโฮสติ้ง: ฿3,000–฿10,000/เดือน

10. Wix eCommerce

Wix เป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์แบบ All-in-One ที่สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้เช่นกัน

จุดเด่น

  • ระบบ Drag & Drop ใช้งานง่าย
  • ธีมสวยงามทันสมัย
  • เหมาะกับร้านที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์

จุดด้อย

  • ฟีเจอร์ eCommerce ยังไม่ล้ำเท่ากับ Shopify
  • ไม่รองรับระบบชำระเงินไทยโดยตรง ต้องใช้พาร์ตเนอร์เพิ่มเติม

ราคา

  • แผน eCommerce Basic: ฿600–฿1,500/เดือน (ขึ้นกับโปรโมชั่น)

สรุปเปรียบเทียบ


แพลตฟอร์มราคาเริ่มต้น/เดือนค่าธรรมเนียมเหมาะสำหรับ
Shopify฿8501.5%–2%ธุรกิจกลาง-ใหญ่
WooCommerceขึ้นอยู่กับโฮสติ้งไม่มีธุรกิจที่ต้องการปรับแต่ง
Lazadaฟรี2%–10%รายย่อย ขายจำนวนมาก
Shopeeฟรี3%–8%รายย่อย ราคาถูก
LINE SHOPPINGฟรี2.5% ผ่าน LINE Payรายย่อย
LnwShop฿0–฿299ไม่มีธุรกิจไทยขนาดเล็ก
Facebook/Instagramฟรีไม่มีเริ่มต้น
MakeWebEasy฿390–฿1,290ไม่มีSME
Magento฿3,000+ไม่มีองค์กร
Wix eCommerce฿600–฿1,500ไม่มีร้านค้าภาพลักษณ์ดี


บทส่งท้าย

การเลือกแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ที่เหมาะสมในประเทศไทยปี 2025 ควรคำนึงถึงงบประมาณ ความสามารถด้านเทคนิค ขนาดธุรกิจ และเป้าหมายการเติบโต หากคุณเพิ่งเริ่มต้น อาจใช้แพลตฟอร์มฟรีหรือใช้งานง่ายอย่าง LINE SHOPPING หรือ Shopee ก่อน เมื่อธุรกิจเติบโตจึงค่อยขยับไปใช้ระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้นอย่าง Shopify หรือ Magento

ธุรกิจออนไลน์สามารถประสบความสำเร็จได้หากมีการวางแผนและเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม ขอให้คุณประสบความสำเร็จในเส้นทางผู้ประกอบการยุคดิจิทัล!


เราเป็นเอเจนซี่การตลาดที่ดีที่สุดในประเทศไทยบนอินเทอร์เน็ต
หากคุณต้องการความช่วยเหลือ กรุณาติดต่อเราผ่านแบบฟอร์มติดต่อ

ปรึกษาฟรี

TH Ranking ให้บริการทราฟฟิกเว็บไซต์คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย เรามีบริการทราฟฟิกหลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ทราฟฟิกเว็บไซต์, ทราฟฟิกจากเดสก์ท็อป, ทราฟฟิกจากมือถือ, ทราฟฟิกจาก Google, ทราฟฟิกจากการค้นหา, ทราฟฟิกจาก eCommerce, ทราฟฟิกจาก YouTube และทราฟฟิกจาก TikTok เว็บไซต์ของเรามีอัตราความพึงพอใจของลูกค้า 100% คุณจึงสามารถสั่งซื้อทราฟฟิก SEO จำนวนมากทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เพียง 398 บาทต่อเดือน คุณสามารถเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO และเพิ่มยอดขายได้ทันที!

เลือกแพ็กเกจทราฟฟิกไม่ถูกใช่ไหม? ติดต่อเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ

ปรึกษาฟรี

การปรึกษาฟรี ฝ่ายบริการลูกค้า

ต้องการความช่วยเหลือในการเลือกแผน? กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านขวา และเราจะติดต่อกลับหาคุณ!

Fill the
form