ตัวอย่างเชิงกลยุทธ์จากธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย

ตัวอย่างเชิงกลยุทธ์จากธุรกิจสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ ได้แก่

• กลยุทธ์การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้ (Sharing Economy) โดยธุรกิจสตาร์ทอัพจะเน้นการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อมต่อผู้ให้บริการกับผู้รับบริการ เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรส่วนเกิน เช่น แอปจองคิวร้านอาหาร QueQ ที่ปรับระบบการทำงานของร้านค้าให้สื่อสารกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• กลยุทธ์การสร้างความร่วมมือที่เน้นคุณค่า (Value Creation) มากกว่าการพัฒนานวัตกรรมเพียงอย่างเดียว ธุรกิจสตาร์ทอัพจะต้องแสดงให้พันธมิตรเห็นว่าโซลูชันของตนสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้จริง และสร้างมูลค่าในระยะยาว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่น

• กลยุทธ์การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ (Go International) แม้ว่าจะเริ่มต้นจากตลาดในประเทศ แต่สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมักมีแนวคิดขยายตลาดไปต่างประเทศตั้งแต่เริ่มต้น เช่น Omise, Eatigo และ ACommerce ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นชาวต่างชาติหรือมีประสบการณ์ระดับสากล ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและมีโอกาสระดมทุนได้มากขึ้น

• กลยุทธ์การใช้เทคโนโลยีในกลุ่มฟินเทคและอินชัวร์เทค (Insurtech) เช่น การใช้ AI, การวิเคราะห์ข้อมูล และระบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนประกันภัย ตัวอย่างเช่น 724 Market และ Eazy Digital ที่พัฒนาระบบออนไลน์และแพลตฟอร์มบริหารจัดการตัวแทน

• กลยุทธ์การใช้ทักษะและบริการด้านไอทีเพื่อเจาะตลาดโลก เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ, SaaS หรือซอฟต์แวร์เฉพาะทาง โดยเน้นการสร้างผลงานและการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น LinkedIn และอีเมล เพื่อเข้าถึงลูกค้าต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของสตาร์ทอัพในยุคดิจิทัลที่เน้นการสร้างคุณค่า การใช้เทคโนโลยี และการขยายตลาดอย่างมีเป้าหมายและยั่งยืน.