หลักการตั้งค่า KPI ตามหลัก SMART
หลัก SMART เป็นแนวทางสากลที่ช่วยให้การกำหนด KPI (Key Performance Indicator) มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยแต่ละตัวอักษรใน SMART หมายถึงคุณสมบัติสำคัญที่ KPI ควรมี ดังนี้:
| ตัวอักษร | ความหมาย | คำอธิบาย |
|---|---|---|
| S (Specific) | เฉพาะเจาะจง | เป้าหมายต้องชัดเจน ระบุได้ว่าใคร ทำอะไร เพื่ออะไร ไม่คลุมเครือ |
| M (Measurable) | วัดผลได้ | ต้องมีเกณฑ์หรือตัวเลขที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ยอดขาย เปอร์เซ็นต์ความพึงพอใจ |
| A (Achievable) | บรรลุได้จริง | เป้าหมายต้องท้าทายแต่ไม่เกินความสามารถและทรัพยากรที่มีอยู่ |
| R (Relevant) | สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร | KPI ต้องเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ขององค์กร |
| T (Time-bound) | มีกรอบเวลา | ต้องระบุระยะเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินการและประเมินผล เช่น ภายใน 3 เดือน หรือ 1 ปี |
ขั้นตอนการนำหลัก SMART ไปใช้กับ KPI
- กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน (Specific): ตั้งคำถามว่า “ต้องการทำอะไรให้สำเร็จ” “เหตุใดเป้าหมายนี้จึงสำคัญ” และ “ใครเกี่ยวข้อง”
- ทำให้วัดผลได้ (Measurable): ระบุวิธีการวัดผล เช่น ตัวเลข เปอร์เซ็นต์ หรือเกณฑ์ประเมินที่ชัดเจน
- ตรวจสอบความเป็นไปได้ (Achievable): เป้าหมายต้องเหมาะสมกับทรัพยากรและสถานการณ์ขององค์กร
- เชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กร (Relevant): KPI ต้องสอดคล้องกับทิศทางและกลยุทธ์ขององค์กร
- กำหนดกรอบเวลา (Time-bound): ระบุระยะเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินการและประเมินผล
ตัวอย่าง KPI ที่ใช้หลัก SMART
- เพิ่มยอดขายสินค้า X จาก 10,000 บาท เป็น 15,000 บาท ภายใน 3 เดือน
- ลดอัตราการลาออกของพนักงานจาก 15% เหลือ 10% ภายใน 1 ปี
- เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าจาก 80% เป็น 90% ภายใน 6 เดือน
ประโยชน์ของหลัก SMART ในการตั้ง KPI
- ช่วยให้เป้าหมายชัดเจนและเป็นรูปธรรม ไม่คลุมเครือหรือตีความได้หลายทาง
- วัดผลและติดตามความก้าวหน้าได้ง่าย เพราะมีเกณฑ์และกรอบเวลาที่แน่นอน
- เพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมาย เพราะเป้าหมายมีความเป็นไปได้และสอดคล้องกับบริบทขององค์กร
- ช่วยให้การสื่อสารและประเมินผลภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
การตั้งค่า KPI ตามหลัก SMART คือการกำหนดเป้าหมายที่ เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ บรรลุได้จริง สอดคล้องกับองค์กร และมีกรอบเวลา ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
TH Ranking ให้บริการทราฟฟิกเว็บไซต์คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย เรามีบริการทราฟฟิกหลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ทราฟฟิกเว็บไซต์, ทราฟฟิกจากเดสก์ท็อป, ทราฟฟิกจากมือถือ, ทราฟฟิกจาก Google, ทราฟฟิกจากการค้นหา, ทราฟฟิกจาก eCommerce, ทราฟฟิกจาก YouTube และทราฟฟิกจาก TikTok เว็บไซต์ของเรามีอัตราความพึงพอใจของลูกค้า 100% คุณจึงสามารถสั่งซื้อทราฟฟิก SEO จำนวนมากทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ เพียง 398 บาทต่อเดือน คุณสามารถเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO และเพิ่มยอดขายได้ทันที!
เลือกแพ็กเกจทราฟฟิกไม่ถูกใช่ไหม? ติดต่อเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือ
ปรึกษาฟรี