เคสสตาร์ทอัพ/ธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จ: รูปแบบและบทเรียนที่ได้

เคสสตาร์ทอัพและธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จมีหลากหลายรูปแบบ เช่น AI และเทคโนโลยี (Ai9, Botnoi), โลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซ (Flash Express, aCommerce), ฟู้ดเทค (FreshKet), แฟชั่น (Pomelo) และ ซูเปอร์แอพ (Line Man Wongnai, Ascend Money) ซึ่งหลายรายกลายเป็นยูนิคอร์นมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

รูปแบบธุรกิจที่เด่น

• AI/Deep Tech: Ai9 เริ่มจาก NSTDA Start-up พัฒนา Speech-to-Text และ NLP สร้างรายได้จากตลาด AI ไทยเกือบ 5,000 ล้านบาท (เติบโต 24%) Botnoi สร้าง Chatbot รองรับภาษาไทย เป้าหมายระดับโลก
• E-commerce/Omnichannel: Pomelo ใช้โมเดลหลายช่องทางรอดวิกฤตโควิด aCommerce ทำกำไร 45.9 ล้านบาทไตรมาส 4/2564 วางแผน IPO
• ฟู้ดเทค/ซัพพลายเชน: FreshKet เชื่อมเกษตรกร-ร้านอาหาร รายได้พุ่งจาก 46 ล้านบาท (2561) เป็น 310 ล้านบาท (2563)
• โลจิสติกส์/ฟินเทค: Flash Express, Line Man Wongnai, Ascend Money กลายเป็นยูนิคอร์น สนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐาน EEC และ CVC เช่น SCB 10X
• นวัตกรรมข้ามชาติ: OmniVirt เริ่มจากโรงรถไทย สู่ Silicon Valley ด้วย VR โฆษณา

บทเรียนสำคัญที่ได้

• ปรับตัวยืดหยุ่น: ใช้ Omnichannel และเทคโนโลยีทันสมัยรอดวิกฤต เช่น Pomelo, FreshKet
• แก้ปัญหาจริง: เริ่มจาก pain point ไทย เช่น Chatbot ภาษาไทย (Botnoi), BI ลดเวลาตัดสินใจ 50% (Banpu Gen AI)
• พันธมิตรและสนับสนุน: ร่วม NSTDA, dtac Accelerate, CVC (SCB 10X, True Incube) และสมาคม Thai Startup เพื่อ unite และ engage partner
• scale สู่โลก: จาก local สู่ unicorn ด้วยโครงสร้างต้นทุนต่ำและ EEC
• วัดผลชัด: ลดต้นทุน เช่น HR Chatbot ประหยัด 90% (Fujitsu), ประหยัด 1 ล้านบาท/ปี (Banpu)

ข้อมูลจากผลสำรวจ 2024 ชี้สตาร์ทอัพไทยอันดับ 54 โลก อันดับ 4 อาเซียน แสดงศักยภาพเติบโต หากแก้ pain point เช่น การสนับสนุนนโยบาย